เมื่อมีเหตุการณ์ไม่คาดฝันเกิดขึ้น อาจส่งผลกระทบให้เกิดความเสี่ยงในชีวิตหลาย ๆ อย่างตามมา เช่น เมื่อเศรษฐกิจมีความผันผวนไม่ใช่แต่เพียงผู้ประกอบเท่านั้นที่จะต้องเผชิญกับความเสี่ยง พนักงานประจำก็ได้รับผลกระทบนี้เช่นกัน เพราะบริษัทอาจปิดกิจการ มีการเลิกจ้างพนักงาน หรือการที่หัวหน้าครอบครัวไม่สามารถทำงานได้ รายได้หลักของครอบครัวที่หายไป อาจเกิดความไม่มั่นคงทางการเงินของครอบครัวได้
การวางแผนคุ้มครองรายได้จึงมีความสำคัญสำหรับทุกคน เพราะเป็นเหมือนเครื่องมือที่จะช่วยเราป้องกันความเสี่ยง เพื่อเตรียมพร้อมรับมือเมื่อเกิดสถานการณ์ฉุกเฉิน หากเราไม่สามารถทำงานหรือไม่มีรายได้ในช่วงเวลานั้น ๆ แนะนำ 3 วิธีวางแผนเพื่อคุ้มครองรายได้ ดังนี้
1. คุ้มครองรายได้ด้วยการออม
เริ่มตั้งแต่การวางแผนเก็บเงินสำรองไว้ใช้ในยามฉุกเฉินให้ได้ 3 – 6 เดือนจากยอดค่าใช้จ่ายรายเดือน เช่น มีค่าใช้จ่ายต่อเดือนอยู่ที่ 10,000 บาท เงินสำรองฉุกเฉินที่ควรมีคือ 30,000 -60,000 บาท
เงินก้อนนี้จะช่วยให้เราสามารถบริหารจัดการค่าใช้จ่ายในช่วงเวลาที่เกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิดหรือมีเหตุเร่งด่วนได้
2. คุ้มครองรายได้จากการทำประกัน
การทำประกันเป็นอีกหนึ่งรูปแบบที่จะช่วยแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายและคุ้มครองรายได้ หากเกิดการเจ็บป่วย อุบัติเหตุ ในช่วงเวลาที่เราไม่สามารถทำงานได้ หรือแม้กระทั่ง ทุพพลภาพจากอุบัติเหตุ เสียชีวิต โดยบริษัทประกันจะจ่ายค่าสินไหมทดแทนให้กับผู้เอาประกันตามสัญญาที่ได้ทำไว้
3. คุ้มครองรายได้จากการลงทุน
หาช่องทางเพิ่มรายได้ด้วยการนำเงินออมมาลงทุน เช่น การลงทุนในกองทุนรวม หุ้น ควรศึกษาข้อมูลและความเสี่ยงที่ยอมรับได้ก่อนตัดสินใจลงทุน
การวางแผนคุ้มครองรายได้ผ่าน 3 วิธีข้างต้น เป็นเหมือนเกราะที่จะช่วยสร้างความคุ้มครองทางการเงิน และด้วยผลิตภัณฑ์ประกันและการลงทุนมีหลากหลายรูปแบบ การรับคำปรึกษาจากนักวางแผนการเงิน CFP จะช่วยวางแผนในการเลือกผลิตภัณฑ์ที่มีความเหมาะสมให้กับเราได้
Credit :สมาคมนักวางแผนการเงินไทย